วอลเปเปอร์หลังผ้า แก้ปัญหาผนังร้าว

     วอลเปเปอร์ติดผนังหลังผ้า (Fabric-backed wallpaper) เป็นวอลเปเปอร์ประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ต้องการความทนทานและความสวยงามเป็นพิเศษ

     
     วิธีปิดรอยร้าวอย่างมืออาชีพด้วยวอลเปเปอร์หลังผ้า

หลายคนคงเคยเจอกับปัญหา  " รอยร้าวบนผนังบ้าน" ไม่ว่าจะเป็นรอยแตกลายงาเล็ก ๆ จากการทรุดตัวของอาคาร แผ่นดินไหว สภาพอากาศ หรือรอยร้าวจากการใช้งานในระยะยาว ปัญหาเหล่านี้ไม่เพียงแค่ทำให้บ้านและอาคารดูเก่า ดูโทรม เหมือนสถานที่ที่ไม่ค่อยได้ดูแล ยังอาจส่งผลต่อความรู้สึกของผู้อยู่อาศัย และแขกผู้มาเยือนอีกด้วย โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท โฮสเทล ที่ต้องการบรรยากาศที่สวยงาม ดูผ่อนคลาย หากเกิดรอยร้าวผนังที่ชัดเจน อาจเกิดผลเสียต่อภาพลักษณ์และรวมไปถึงการรีวิวของลูกค้าที่อาจจะไม่ค่อยประทับใจนัก

     ผนังร้าวเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในบ้านและอาคาร ไม่ว่าจะสร้างใหม่หรือใช้งานมานานแล้ว หลายคนอาจสงสัยว่า “ผนังร้าวสามารถแก้ไขด้วยการติดวอลเปเปอร์ได้หรือไม่ คำตอบคือ “ขึ้นอยู่กับลักษณะของรอยร้าว”

1. รอยร้าวเล็กๆ ตามแนวฉาบ

เป็นรอยร้าวขนาดเล็ก เกิดจากการหดตัวของปูนฉาบหรือความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ

ลักษณะ: ไม่ลึก ไม่มีการแยกตัวของผนัง สามารถแก้ไขด้วยวอลเปเปอร์หลังผ้าได้ โดยการโป๊วรอยร้าวให้เรียบก่อนติดวอลเปเปอร์

2. รอยร้าวจากการทรุดตัวเล็กน้อยของอาคาร

พบในบ้านที่มีการทรุดตัวเล็กน้อยซึ่งไม่กระทบต่อโครงสร้างหลัก

ลักษณะ: รอยร้าวไม่ขยายต่อเนื่อง และไม่มีความลึก สามารถซ่อมเบื้องต้นและติดวอลเปเปอร์ทับได้ โดยใช้วอลเปเปอร์ลวดลายหรือเท็กซ์เจอร์เพื่อพรางตา

3. รอยร้าวจากการใช้งานหรือกระแทกเล็กน้อย

เกิดจากการกระแทก เฟอร์นิเจอร์ หรือเจาะผนัง

ลักษณะ: รอยเฉพาะจุด ไม่ลุกลาม เหมาะสำหรับการแก้ไขด้วยวอลเปเปอร์ โดยโป๊วหรือฉาบให้เรียบแล้วติดวอลเปเปอร์ทับ

รู้จักกับวอลเปเปอร์หลังผ้า 

เป็นวอลเปเปอร์ชนิดพิเศษที่มีโครงสร้างด้านหลังเป็นเส้นใยผ้า แบบตาข่าย (Net) หรือไฟเบอร์ที่มีความเหนียวและยืดหยุ่นสูง แตกต่างจากวอลเปเปอร์ทั่วไปที่มักมีโครงสร้างเป็นกระดาษหรือไวนิลบาง ๆ โดยเฉพาะแบบที่มี วอลเปเปอร์ลายพื้นผิว จะช่วยซ่อนรอยแตกร้าวได้อย่างแนบเนียน ทำให้ผนังดูดีและหรูหราขึ้นอย่างง่ายดาย

คุณสมบัติเด่นของวอลเปเปอร์หลังผ้า 

1. ปิดรอยร้าวได้ดี ด้วยความหนาและยืดหยุ่นของเส้นใย ช่วยซ่อนรอยแตกร้าวบนผนังได้อย่างแนบเนียน

2. ยึดเกาะแน่น  ไม่หลุดร่อนง่าย แม้กับผนังที่เคยแตกร้าว

3. ทนทานมาก  ทนความชื้น ไม่บวม ไม่ลอกง่าย

4.ความทนทาน ผ่านการรับรองตามมาตรฐานปลอดภัยต่อสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

5. วอลเปเปอร์ปลอดสารพีวีซี (PVC-free) ปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย 

6. ปราศจากพทาเลทและไม่มีโลหะหนัก

     ให้สัมผัสและเท็กซ์เจอร์นุ่มละมุน ลวดลายที่เรียบง่ายแต่ทรงเสน่ห์ ให้โทนสีอบอุ่น" เหมาะกับทั้งพื้นที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ มีผิวสัมผัสและเท็กซ์เจอร์คล้ายผ้าทอ ให้ความเรียบหรู และ สัมผัสที่สบายด้วยโทนสีธรรมชาติ และคุณสมบัติการปกปิดรอยร้าวผนังได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังเสริมเรื่องความคงทน เพราะสามารถป้องกันกันรอยขีดข่วน เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย และวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ทุกงานโครงการที่มีคนเข้าออกในอาคารเยอะ ออกข้อดีคือ คุณสมบัติไม่ลามไฟ มาตรฐาน NFPA 286 ผ่านการรับรองตามมาตรฐานปลอดภัยต่อสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปลอดสารพีวีซี ผ่านมาตรฐาน GREENGUARD ซึ่งช่วยในด้านคุณภาพอากาศภายในอาคาร สำหรับโครงการที่ต้องการเพิ่มคะแนน LEED เพื่อมาตรฐานอาคารเขียว เหมาะกับสถานที่เชิงพาณิชย์เช่น โรงแรม สำนักงาน สถานพยาบาล  ออฟฟิศ สถาบันการศึกษา และสถานที่สาธารณะอื่น ๆ

     สัมผัสนุ่มละมุน เป็นวอลเปเปอร์โทนสีเรียบ แมทช์ง่าย มีเท็กซ์เจอร์ในตัวที่ดูเป็นพื้นผิวธรรมชาติ ทำให้ดูเรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา โดดเด่นในเรื่องความแข็งแรง ทนทาน ป้องกันรอยขีดข่วนหนักได้ดี ทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะกับการใช้ที่ต้องการเน้นเรื่องการปกป้องรอยร้าว การป้องกันการกระแทก และติดตั้งง่าย

ขั้นตอนการติดวอลเปเปอร์เพื่อปิดรอยร้าว

1. ตรวจสอบรอยร้าว : หากเป็นรอยแตกลายงาหรือรอยร้าวผิว ไม่ต้องซ่อมโครงสร้าง 

2. เตรียมพื้นผิวผนัง : โดยทำความสะอาดผนัง หากต้องการความเนี้ยบเพิ่มขึ้น แนะนำให้โป๊วและขัดเบา ๆ เฉพาะจุดที่ร้าว เพื่อความเรียบเนียน

3. เลือก วอลเปเปอร์หลังผ้า ที่เหมาะกับพื้นที่ : ถ้าผนังมีรอยร้าวเยอะ แนะนำลายพื้นผิว Texture แนวลายผ้าทอ จะช่วยพรางสายตาได้ดี 

4. ติดตั้งโดยช่างมืออาชีพ : การติดวอลเปเปอร์หลังผ้าให้เรียบเนียนต้องใช้เทคนิคเฉพาะ เช่น การเก็บรอยต่อให้แนบสนิท เพราะวอลเปเปอร์หลังผ้ามีความหนากว่าวอลเปเปอร์ทั่วไป

คุณสมบัติเด่นของวอลเปเปอร์ติดผนังหลังผ้า

• ความทนทานสูง เป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุด เนื่องจากมีชั้นผ้าเป็นฐานด้านหลัง ทำให้ทนทานต่อการฉีกขาด การกระแทก และการสึกหรอได้ดีกว่าวอลเปเปอร์แบบกระดาษหรือไวนิลทั่วไป เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการใช้งานมาก เช่น โรงแรม โถงทางเดิน หรือบ้านที่มีเด็กและสัตว์เลี้ยง

• ปกปิดรอยตำหนิบนผนังได้ดี ด้วยความหนาและผิวสัมผัสของวอลเปเปอร์หลังผ้า สามารถช่วยปกปิดรอยร้าว รอยแตก หรือความไม่เรียบเนียนบนผนังได้ดี ทำให้ผนังดูเรียบเนียนสวยงาม

• ดูดซับเสียง ชั้นผ้าด้านหลังช่วยเพิ่มคุณสมบัติในการดูดซับเสียง ทำให้ลดเสียงสะท้อนและสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบขึ้น เหมาะสำหรับห้องนอน ห้องทำงาน หรือพื้นที่ที่ต้องการความสงบ

• สร้างความหรูหราและมีมิติ วอลเปเปอร์หลังผ้ามักมีพื้นผิวและลวดลายที่หลากหลาย ทั้งจากเส้นใยธรรมชาติ (เช่น ไหม ฝ้าย ลินิน) หรือใยสังเคราะห์ ทำให้ผนังมีมิติ ความลึก และความหรูหราที่โดดเด่นกว่าวอลเปเปอร์ประเภทอื่น

• ระบายอากาศได้ดี บางชนิดของวอลเปเปอร์หลังผ้า โดยเฉพาะที่ทำจากใยธรรมชาติ จะมีคุณสมบัติในการระบายอากาศ ทำให้ลดความเสี่ยงของการเกิดความชื้นสะสมและเชื้อราได้ (แต่ก็ต้องระวังเรื่องความชื้นโดยรวมของพื้นที่ด้วย)

• ทำความสะอาดง่าย วอลเปเปอร์หลังผ้าบางชนิด โดยเฉพาะที่เคลือบผิวหน้าด้วยสาร PVC จะสามารถเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ได้ง่าย ทำให้สะดวกในการดูแลรักษา

• อายุการใช้งานยาวนาน ด้วยความทนทาน ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าวอลเปเปอร์ทั่วไป อาจใช้งานได้นานถึง 10-15 ปี หากได้รับการติดตั้งและดูแลรักษาอย่างถูกวิธี

• ติดตั้งได้ง่าย วอลเปเปอร์หลังผ้าบางชนิด โดยเฉพาะแบบ "Paste the wall" ที่ติดกาวที่ผนังโดยตรง จะช่วยลดปัญหาการหดตัวของวอลเปเปอร์และทำให้ติดตั้งได้ง่ายขึ้น